บริษัท พร้อม เทคโน เซอร์วิส จำกัด
ส่วนที่เกี่ยวกับ ข้อมูลส่วนบุคคลของงานด้านบริหารอาคารและโรงแรม
ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้าและคู่สัญญาตามที่กล่าวในนโยบายนี้แล้ว บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะผู้มาติดต่อหรือผู้ที่เข้ามาในบริเวณรับผิดชอบของ บริษัทฯ รวมถึงท่านอาจเป็นบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลไว้อันเนื่องมาจากการดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ท่านอาจเป็นลูกค้าประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ในนโยบายนี้ด้วย เป็นต้น
- ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวม
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้มาติดต่อ หรือเป็นผู้ที่เข้ามาในบริเวณรับผิดชอบของ บริษัทฯข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านประเภทดังต่อไปนี้
1) ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน อายุ วุฒิการศึกษา ภาพถ่าย
2) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล
3) ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น เลขที่ใบอนุญาตขับขี่ เลขที่ใบอนุญาตจากกรมธุรกิจพลังงาน เลขทะเบียนรถ รายละเอียดขนาดบรรทุกของรถ รายละเอียดของเจ้าของรถ รายละเอียดของผู้รับเหมา ข้อมูลจากการบันทึกภาพกล้องวงจรปิด
บริษัทฯ ไม่ประสงค์เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่าน หากในกรณีที่ บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องร้องขอสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรที่ราชการออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่าน บริษัทฯ จะลบข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวที่ปรากฏในบัตรดังกล่าว เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากท่านหรือได้แจ้งท่านแล้ว หรือสามารถอ้างฐานทางกฎหมายอื่นเพื่อเป็นข้อยกเว้นที่ไม่ต้องได้รับความยินยอมโดยจากท่าน
- แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทฯ โดยตรง เช่น การลงทะเบียน การสมัคร การเข้าอบรม การติดต่อเพื่อเข้า-ออกสถานที่ การแลกบัตรเพื่อเข้าสถานที่หรืออาคาร การเข้าร่วมกิจกรรม การติดต่อขอรับบริการหรือการสนับสนุนช่วยเหลือ
- วัตถุประสงค์การเก็บรวมรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานทางกฎหมาย
บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์หลายประการภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา: เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือดำเนินการตามคำร้องขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา เพื่อดำเนินกิจกรรมดังต่อไปนี้
ก) เพื่อติดต่อซื้อขาย หรือรับหรือให้บริการ
ข) เพื่อจัดการอบรมทำบัตรอนุญาตเข้า-ออกภายในบริเวณที่ บริษัทฯ การทำบัตรอนุญาตให้จอดรถ การติดตามและตรวจสอบเวลาการทำงานของผู้รับเหมา
ค) เพื่อพิจารณาคุณสมบัติ และพิจารณาเพื่อให้การสนับสนุนช่วยเหลือตามคำร้องขอ การรับทุนการศึกษา
2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย: เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายหรือเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับการดำเนินกิจกรรมดังต่อไปนี้
ก) เพื่อความจำเป็นในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบหรือสอบยันข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันการทุจริตในการใช้สิทธิหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อเป็นหลักฐานในการยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ข) เพื่อเปิดเผยและรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานที่กฎหมายกำหนด
3) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: โดยคำนึงถึงความได้สัดส่วนและความคาดหมายของท่าน โดยประโยชน์ที่ได้มีความสมดุลกับสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ก) เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่จากการบันทึกภาพด้วยระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) และการแลกบัตรเข้าออกสถานที่หรืออาคาร และเพื่อป้องกันเหตุอันตรายหรือเหตุฉุกเฉินภายในบริเวณเพื่อเปิดเผยและรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานที่กฎหมายกำหนด
ข) เพื่อการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสืบสวน สอบสวน การขอคำปรึกษา เกี่ยวกับการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการพิสูจน์หรือใช้เป็นหลักฐานในกระบวนการทางกฎหมาย
ค) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนหรือยืนยันคุณสมบัติ
ง) เพื่อแสดงภาพถ่ายกิจกรรมหรือบรรยากาศกิจกรรมหรือโครงการที่ บริษัทฯ ดำเนินการหรือสนับสนุน
4) ฐานความยินยอม: เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว ได้แก่ ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลศาสนา รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวอื่น ๆ ที่ปรากฏในบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อการยืนยันตัวตน
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่ ได้รับความยินยอมจากท่าน หรือมีความจำเป็นต้องเปิดเผยหรือรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายให้แก่หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานราชการ และหน่วยงานอื่น ๆ ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้น เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม หรือโครงการ การให้บริการแก่ชุมชน การตรวจสอบบัญชี การขอคำปรึกษาทางกฎหมาย การตรวจสอบ การประเมิน และการดำเนินคดี และการดำเนินการอื่นใดที่จำเป็น
๕. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ของท่าน
ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ ดังต่อไปนี้
5.1 สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัท ฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
5.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.3 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
5.3.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทฯทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
5.3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
5.3.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์บริษัทฯได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
5.3.4 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทฯ กำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทฯ สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของบริษัทฯ
- การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อการส่งข้อมูลที่จำเป็นให้คู่สัญญาที่อยู่ต่างประเทศ โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
6.1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทฯ จำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
6.2 บริษัทฯ ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้เป็นไปตามรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
6.3 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้ หรือ เพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
- ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นต่อการประมวลผลหรือตามกฎหมายอันเกี่ยวเนื่องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ กำหนด และเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
- การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยส่งคำร้องขอ email : hrdmanager@teohong.com
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ตามกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้
- ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
- การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ บริษัทฯ อาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง เว็บไซต์ของบริษัท อีเมล์หรือช่องทางอื่นใด
โดยในการเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
- การติดต่อสอบถาม
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เตียวฮงสีลม จำกัด (สำนักงานใหญ่)
สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 2/3 ม. 14 อาคารบางนาทาวเวอร์ บี ชั้น 17 ถนนบางนาตราด กม. 6.5 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540 email hrdmanager@teohong.com โทร 02 312 0045-69